แชร์ไปได้บุญ

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ไม่รู้อย่ารีบเม้นท์นะ..ขอบอก

    ช่วงนี้ ข่าวคราวที่หนาหูหนาตา ออกมาตามหน้าสื่อต่างๆ ข่าวหนึ่งก็คือเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์ ข่าวส่วนใหญ่มักจะเป็นข่าวเรื่องความเสื่อมเสีย ความอื้อฉาว ทั้งที่เกิดขึ้นจริงบ้าง จริง 7 เท็จ 3 บ้าง หรือไม่จริงเลยก็ไม่มีใครทราบ นอกจากคนหาข่าว นักเขียน บรรณาธิการข่าว ข่าวที่ร้ายๆ ก็มักจะขายดี เพราะล่อใจประชาชนคนกระหายใคร่รู้
อย่าวิจารณ์พระผิดๆ โดยที่ยังไม่รู้ความจริง ระวังกรรมหนัก!!
     เมื่อข่าวออกมา ก็ไม่วายจะต้องมีคนเข้าไปช่วยกันเขียนคอมเม้นท์บ้าง วิจารณ์ไปต่างๆ นานาๆ ตามความเห็น ความต้องการของตน ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ทราบว่า จริงหรือไม่ หรือบางครั้งสื่อหลายสื่อช่วยกันประโคมข่าวเรื่องเดียวกัน ทำให้คนเกิดความมั่นใจว่า สิ่งที่นำเสนอในเรื่องเดียวกันนั้นเป็นเรื่องจริง ทั้งที่จริงๆ แล้ว เป็นเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง บางคนที่มีปัญญา มีข้อมูล ก็คิดว่า สื่ออาจจะรับเงินหรือถูกสั่งจากผู้มีอำนาจหรือไม่? 
เตือนสติชาวพุทธ ควรปฏิบัติกับพระให้เหมาะสม
     ความไม่รู้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์มีการกระทำผิดพลาด ทั้งทางกาย วาจา และใจ และเพราะความไม่รู้นี่เอง ที่ทำให้มนุษย์ต้องได้รับวิบากกรรมที่ไม่อาจจะแก้ตัวได้ว่า “ไม่รู้” คล้ายๆ กับกฎหมายบ้านเมืองที่เราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ก็ย่อมได้รับการคุ้มครอง และได้รับโทษทัณฑ์หากกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวเสมอ
   อย่างไรก็ตาม ความผิดในทางกฎหมายบ้านเมือง ก็พอจะแก้ไขหรือรับโทษเฉพาะในชีวิตนี้ ขณะที่ความผิดพลาดอันเกิดจากการกระทำผิดกฎแห่งกรรม จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำอีกยาวนานนับล้านปีในทุคติภูมิ เช่น นรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์ดิรัจฉาน ดังนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาและ “รู้” เอาไว้ เพื่อการดำเนินชีวิตจะได้ไม่ผิดพลาด

คำถาม?
    ผลกรรมของผู้ที่จงใจเสนอข่าวบิดเบือนพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่ความจริง กับผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจบิดเบือนข่าวพระพุทธศาสนา แต่ทำไปเพราะเข้าใจผิดจริงๆ แต่มีผลสร้างความเสียหายให้พระพุทธศาสนาเหมือนกัน ทั้งสองประเภทนี้จะได้รับวิบากกรรมหนักเบาต่างกันอย่างไร?
     ในกรณีถ้าพระทำผิดจริงๆ ควรนำเสนอข่าวอย่างไร จึงจะเหมาะสมและถูกต้อง การที่นักข่าวไปทำข่าวแบบนี้เผยแพร่ออกไป จะได้รับวิบากกรรมหรือไม่อย่างไร

คำตอบ
     ผู้ที่จงใจเสนอข่าวบิดเบือนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่เป็นความจริงกับผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจบิดเบือนข่าวทำไปเพราะเข้าใจผิดจริงๆ แต่ก็มีผลสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาเหมือนกัน 
      ทั้งสองประเภทนี้จะได้รับวิบากต่างกัน คือพวกแรกจะหนักกว่า เพราะมีอกุศลเจตนาอย่างแรงกล้า ซึ่งจะมีวิบากกรรมให้ไปมหานรกขุม ๔ จะถูกนายนิรยบาลจับบิดตัวถลกหนังออก แล้วเอาปากกาเหล็กร้อนเขียนไปบนเนื้อ แล้วถูกทิ่มแทงด้วยอุปกรณ์การเขียนที่เป็นเหล็กร้อน หรือฝนตัวอักษรที่เคยบิดเบือนเอาไว้ตกใส่ ทุกข์ทรมานมาก เป็นต้น
เปรตขนเป็นหอกเป็นดาบ
     ส่วนที่เสนอข่าวเพราะเข้าใจผิด ก็จะมีวิบากกรรมน้อยลงมาหน่อยหนึ่ง เช่น ลงไปแค่ยมโลก ของมหานรกขุม ๔ ซึ่งจะถูกเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์ทรมานคล้ายพวกแรกที่อยู่ในมหานรกขุม ๔ แต่ว่าเบาบางกว่ากัน

     ในกรณีที่พระทำผิดจริง สิ่งที่ควรทำคือ ไม่เสนอข่าวในที่สาธารณชน แต่ให้ทางคณะสงฆ์ซึ่งมีสายการปกครองโดยกฎหมายและพระธรรมวินัยอยู่แล้ว ได้ดำเนินเรื่องแก้ไขกันไปตามความถูกผิดและเหมาะควรเพราะการนำเสนอเรื่องพระสงฆ์นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะสั่นคลอนความศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้
เปรตคอแขนบิดเบี้ยว
     อีกทั้งศาสนาก็เป็นหนึ่งในสถาบันหลักของประเทศ การที่นักข่าวไปทำข่าวเหล่านี้เผยแพร่ออกไป จะได้รับวิบากกรรมตามกำลังแห่งเจตนา เช่น แม้เป็นจริงและเขียนไปตามความเป็นจริง ก็จะมีผลไปสั่นคลอนศรัทธาของพุทธศาสนิกชนส่วนรวม
ตื่นเถิดชาวพุทธ หยุดทำร้ายพระเรื่องเงินทอน
     ผู้ที่ทำข่าวดังนี้ จะมีวิบากกรรม คือชาติต่อไปก็จะมีคนคอยจับผิด แม้ผิดเล็กน้อยก็ดูเหมือนมาก จะถูกตำหนิติเตียน และปัจจุบัน ใจก็จะเศร้าหมองไปอบายได้
    ส่วนที่ข่าวจริงมีนิดเดียว แต่ไปเขียนขยายความจนทำให้เกิดการเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้น ก็จะมีวิบากมากกว่า
เราชาวพุทธ ต้องช่วยกันยอยกพระพุทธศาสนา
    ดังนั้นหากเราไม่รู้จริง อย่าเพิ่งใช้ปากหรือนิ้วของเรา คีย์หรือกดเพื่อแสดงความเห็นผิดๆ เกี่ยวกับพระ เพราะสิ่งนี้เป็นอันตรายที่เราอาจจะคาดไม่ถึง...แล้วจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ 

    ติดตามบทความต่อไป ตอนหน้าจะนำเสนอเรื่องผลกรรมของผู้ที่ด่าว่าพระสงฆ์ 

ที่มา: หนังสือ “ที่นี่มีคำตอบ” โดยคุณครูไม่ใหญ่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙
: เปรต ผุู้ทนทรมานจากผลของบาป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น