สิ่งใด ไม่เดือดร้อนเขา ไม่เดือดร้อนเรา จงคิด จงพูด จงทำเถิด |
คนที่ทำบาปอกุศล ก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า สิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ ควรหรือไม่ เช่น หลายสำนักข่าว สร้างข่าวเรื่องพระสงฆ์องคเจ้ารายวัน สร้างความเสื่อมเสีย สั่นคลอนศรัทธาปสาธะของพุทธศาสนิกชน มีทั้งการใส่ร้ายพระให้มัวหมองว่า มั่วสีกาบ้าง ว่าเสพยาบ้าง ฉ้อโกงทรัพย์บ้าง เป็นที่น่าแปลกใจจนกระทั่งมีคำถามลอยมากลางอากาศว่า เป็น IO หยาบช้าของกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อพุทธศาสนาหรือไม่ และคดียังไม่ฟ้อง ยังไม่ทันสอบพระท่านเลย ตัดสินว่า พระเป็นผู้ร้ายได้อย่างไร??
คดียังไม่ฟ้อง ยังไม่ทันสอบพระท่านเลย ตัดสินว่า พระเป็นผู้ร้ายได้อย่างไร?? |
พระสงฆ์ถือว่าเป็นผู้เผยแผ่พระศาสนา เป็นบุคคลสำคัญที่เราควรเคารพบูชาอย่างยิ่ง ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่น และไม่ควรด่าว่าพระสงฆ์องคเจ้า
มีหญิงคนหนึ่งที่สร้างบาปกรรมทางวาจาเอาไว้แก่พระสงฆ์ อีกทั้งคนทั่วไปด้วย จนกระทั่งตัวเองต้องได้รับกรรมอย่างแสนสาหัส จนกระทั่งถึงกับชีวิตเลยทีเดียว
เรื่องจริงที่เกิดขึ้น
มีครอบครัวหนึ่ง มีบ้านอยู่ใกล้กับวัดในอำเภอพระยาเม็งราย ในจังหวัดเชียงราย ครอบครัวของนางทอ (นามสมมติ) มี 4 คน มีสามี และลูกอีก 2 คน
นางทอเป็นคนโมโหร้าย เวลามีใครทำอะไรที่ทำให้แกไม่พอใจ แกจะชอบด่าด้วยถ้อยคำหยาบๆ คายๆ แม้พระสงฆ์องคเจ้าก็ไม่ละเว้น มีอาชีพเดิมเสริมสวย เวลามีงานบวชก็จะแต่งหน้านาค ดูแล้วชีวิตน่าจะอยู่ในบุญกุศล แต่เสียอย่างเดียวชอบด่า ทั้งพระทั้งคน
คนที่ชอบด่า หรือใส่ร้ายผู้อื่น กรรมจะมาเร็วมาก เครดิตภาพจาก http://updatetoday.in.th |
สามีขี้เมา ชอบลักขโมยของคนทั่วไป ทั้งของบ้าน ของวัด เจออะไรเป็นเอาหมด
นางทอไม่ค่อยสนใจทำบุญ มีปากเสียงกับสามีเป็นประจำ
ลูกคนแรกเกิดมามีปัญหาทางสมอง ปัญญาอ่อน ลูกชายคนที่สอง พอโตขึ้นมาอยู่ระดับมัธยม ชอบด่าพ่อด่าแม่ ด่าพระสงฆ์องคเจ้า นิสัยเหมือนแม่ไม่มีผิดเลย
ขนาดมีพระเดินผ่านหน้าบ้านทุกวัน แกและครอบครัวก็ไม่เคยใส่บาตรเลย
เด็กๆ ไม่จำในสิ่งที่คุณพยายามจะสอน แต่พวกเขาจำในสิ่งที่คุณเป็น |
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ปีที่แล้ว
มีลูกศิษย์วัดขอตะไคร้ที่บ้าน แกพูดว่า อย่าเอาเยอะนะ บังเอิญลูกศิษย์วัดเอาตะไคร้ไป 10 ต้น แกออกมาดู แกเกิดโมโหขึ้นมา
แกตะโกนด่าไม่ปรานีปราศรัย ลูกศิษย์พากันตกใจวิ่งหนีเข้าวัด แกเดินตามไปถึงหน้ากุฏิสงฆ์ พระเปิดประตูออกมาดู เห็นนางทอกำลังท้าวสะเอวด่าลูกศิษย์อยู่
พระท่านก็ถามว่า “โยมเป็นอะไรน่ะ มีอะไรกัน?”
“ฉันด่าลูกศิษย์แกนั่นแหละ ไอ้หัวโล้น” พอพระสงฆ์ได้ยินอย่างนั้น ไม่กล้าถามอะไรอีก ได้แต่นิ่งเฉย กลับเข้ากุฏิไป
ผลกรรมตามทัน ชีวิตมีอุปสรรค
สามีเกิดอุบัติเหตุ ตัวเองเสียลูกนัยน์ตา ลูกชายตกน้ำ
นางทอไม่รู้ว่าได้ทำบาปอะไรลงไป อยู่มาเหมือนกรรมมาถึงตัวแก สามีทำงานเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ทำตู้กับข้าวบ้าง เตียงนอนบ้าง ตอนที่กำลังผ่าไม้ให้เป็นซี่ มือของสามีถูกเลื่อยไฟฟ้าตัดนิ้วชี้ขาด
แต่ถึงกระนั้นนางทอก็ยังไม่หยุดนิสัยเดิมๆ ชาวบ้านแถวนั้นหรือแม้แต่พระ แกยังด่าว่าอยู่ไม่เลือกไม่เว้น แกทำอย่างนี้อยู่ได้ไม่นาน เหตุการณ์ร้ายๆ ก็เกิดขึ้นกับแก นางทอไปปลูกข้าวดำนา หญ้าที่คนอื่นพ่นยาพิษฆ่าปูนาในนา ยอดหญ้าแทงลูกตาของนางทอ คนที่เห็นเหตุการณ์พาไปรพ.จังหวัด ทำให้ตาของนางทอมองไม่ค่อยเห็น ต้องสวมแว่นตาตลอด
ลูกชายคนโตไปเล่นน้ำที่อ่างเก็บน้ำประจำหมู่บ้าน ตกน้ำ มีคนช่วยไว้ได้
ผู้ที่ไม่ระวังรักษาใจ ปล่อยให้ฟุ้งซ่าน จึงมีชีิวิตที่สับสนวุ่นวาย เป็นอันตราย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น |
คลิกที่นี่ : เรื่องเล่าอาจารย์ยอด / คนด่าพระ
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างผลกรรมเล็กๆ การด่าพระสงฆ์เท่านั้น แค่คิดและด่า ยังให้ผลมากมายปานนี้ หากลงมือกระทำกรรมชั่วกับท่านแล้ว ผลกรรมจะมีมากมายหลายเท่าเพียงใด ยากจะคิด ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในทัณฑวรรควรรณนา เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ มมก. เล่ม 42 หน้า 101 ว่า
" ผู้ใด ประทุษร้ายในท่านผู้ไม่ประทุษร้ายทั้งหลาย ผู้ไม่มีอาชญา ด้วยอาชญา ย่อมถึงฐานะ 10 อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งพลันทีเดียว คือ
ถึงเวทนากล้า 1
ความเสื่อมทรัพย์ 1
ความสลายแห่งสรีระ 1
อาพาธหนัก 1
ความฟุ้งซ่านแห่งจิต 1
ความขัดข้องแต่พระราชา 1
การถูกกล่าวตู่อย่างร้ายแรง 1
ความย่อยยับแห่งเครือญาติ 1
ความเสียหายแห่งโภคะทั้งหลาย 1
อีกอย่างหนึ่ง ไฟป่าย่อมไหม้เรือนของเขา,
ผู้นั้นมีปัญญาทราม เพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงนรก."
บางอย่าง ไม่ต้องไปท้าพิสูจน์โดยเอาชีวิตของเราเข้าไปเสี่ยงหรอก มันไม่คุ้ม!!!
ปาปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ โมหา. คนมักทำบาปกรรมเพราะความหลง |
: พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่มที่ 42 หน้า 101
: กฏแห่งกรรมและเรื่องเล่าชาวบ้าน โดยอาจารย์ยอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น