ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย |
อันที่จริง เกิดจากนิสัยของเราที่ทำซ้ำๆ มาจนเราชิน ชินจนชา เมื่อทำแล้วไม่รู้สึกฝืน แม้จะเป็นการทำผิดแต่ก็ไม่ค่อยมีสำนึกผิดในใจ คิดว่า มันเป็นเรื่องปกติ แถมหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองสารพัด เช่น ใครเขาก็ทำกันทั้งนั้น เรายังไม่เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมในโลก ว่ากันไป
นิสัยเกิดจากการคิด-พูด-ทำ ซ้ำๆ |
บางคนชอบนอนตื่นสาย หรือ ทำอะไรก็ “สายเสมอ” ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเติบโตมาแบบที่ไม่ต้องเร่งร้อนอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก แต่กระนั้น ก็ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างในสังคม
อย่าทำร้ายผู้ตรงต่อเวลา ด้วยการมาสาย |
เห็นมีข่าวการฆ่าตัวตายของดารานักแสดงบ้าง นักร้อง นักธุรกิจ นักศึกษา ฯลฯ อยู่เนืองๆ ทำให้นึกถึงคำพระที่ท่านเคยเทศน์สอนไว้ว่า การฆ่าตัวตายเป็นบาปอย่างยิ่ง ยิ่งกว่าไปฆ่าผู้อื่นเสียอีก
ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ จะเป็นผังที่จะติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ คือ ฆ่าตัวตายชาตินี้ ชาติต่อๆ ไปก็จะต้องไปฆ่าตัวตายอีก เพราะเป็นนิสัยที่ฝังติดตัวไป เกิดมาใหม่ นิสัยท้อแท้ ท้อถอย น้อยความหวัง ก็จะติดไป ทำให้เมื่อเจอเหตุการณ์อะไรในชีวิต ทางออกที่ทำไว้แล้วในชาตินี้ ก็จะเป็นระบบอัตโนมัติที่จะทำให้คิด พูด ทำแบบเดิมอีก
ขอบคุณภาพข่าวจาก https://lifestyle.campus-star.com/entertainment/96478.html |
สาเหตุที่ทำให้คนคิดอยากฆ่าตัวตายมีอย่างน้อย 6 อย่าง คือ ภาวะซึมเศร้า, ป่วยจากโรคจิตเภท คือมีอาการประสาทหลอน, เป็นผลข้างเคียงมาจาการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์, ต้องการความช่วยเหลือจากปัญหาที่ตัวเองมีอยู่ แต่ไม่รู้จักวิธีร้องขอ, มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ตัวเองสมควรตาย เพราะเข้าใจว่า ตัวเองเป็นเจ้าของชีวิตของตัวเอง, ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คิดสั้น คือ คิดไม่ยาว แปลว่า ไม่คิดให้รอบคอบ ให้ตรงไปตามความเป็นจริง
คุณอาจปฏิเสธการกระทำของคุณได้ แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธผลจากการกระทำของคุณ |
มองให้รอบ คือ มองทั้งผลดี ผลเสีย ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน สังคม ประเทศ โลก ฯลฯ
สิ่งที่คนเรามักลืมกันไปคือ..
ร่างกายของเรา ได้มาจากคุณพ่อคุณแม่ ร่างกายนี้มีไว้ใช้สร้างความดีทุกรูปแบบ เมื่อทำความดี ผลดีไม่ได้เกิดเฉพาะตัวเอง แต่มีผล กิตติศัพท์ กิตติคุณ ไปถึงผู้ให้กำเนิดเรามา เช่นเดียวกับการทำความชั่ว
และชาตินี้ที่ทำไม่ดี เช่น ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ก็เป็นผลพลอยร้ายมาจากชาติที่แล้วๆ ที่มักมีนิสัยแบบนี้ คิด พูด ทำแบบนี้ ถ้าไม่ยกใจตัวเองให้สูง ไม่ได้คบบัณฑิตนักปราชญ์ ได้ฝึกฝนตัวเองจนทำให้มีนิสัยที่ดี ก็พาลจะมีนิสัยคิดสั้นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ใครที่เคยคิดสั้น หรือกำลังคิด ก็ขอให้ตระหนักไว้ว่า เป็นสิ่งที่เราคงเคยคิด หรือเคยทำมาแล้ว ดังนั้น หยุดคิด และหันไปดูและตัวเอง และครอบครัวให้มากขึ้นจะดีกว่า อย่าปล่อยให้ฟุ้งซ่าน และเอาความคิดมาทำร้ายตัวเราเอง